| |||||
ประชุม โพธิกุล
สถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษา
| |||||
ภาวะผู้นำ เป็นขบวนการสร้างสิ่งเร้าขบวนการพัฒนาและการทำงานกับคนในองค์การ เป็นขวนการมุ่งคน การมุ่งสร้างแรงจูงใจให้กับคน การใช้มนุษย์สัมพันธ์หรือการปฏิสัมพันธ์ในองค์การการสื่อสารระหว่างบุคคล การสร้างบรรยากาศใน
องค์การ ความขัดแย้งระหว่างบุคคล ความเจริญและการพัฒนานอกเหนือจากนั้นก็คือปัจจัยของมนุษย์ที่ส่งเสริมการผลิต ภาวะผู้นำจะเกิดขึ้นในการปฏิบัติการขององค์การ เพราะฉะนั้นจึงเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความเข้าใจในจุดหมาย การตัดสินใจเลือกทางเลือก ใหม่ การสนับสนุนส่งเสริมการบริการการศึกษาให้มีคุณภาพมากขึ้น การนำหลักการเปลี่ยนแปลงมาใช้ในองค์การและปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งสร้างความพึงพอใจหรือบางครั้งมีผลในทางตรงกันข้าม คือสร้างความไม่พึงพอใจของมนุษย์ในองค์การ
ภาวะผู้นำทางการศึกษากับผู้บริหารการศึกษาจะต้องเหมือนกัน หมายความว่าผู้บริหารการศึกษาจะต้องมีคุณสมบัติของภาวะผู้นำนั้นเอง การเป็นผู้บริหารสมัยใหม่ต้องการความเป็นผู้นำในการบริหารงานของตน จึงจะกล่าวได้ว่าเป็นผู้บริหารสมัยใหม่ ทั้งนี้ เพราะผู้บริหารสมัยใหม่ตระหนักดีว่ามนุษย์มีความแตกต่างกันตามลำดับขั้นของความต้องการจำเป็น ซึ่งต่างกับการทำงานกับเครื่องกลหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้กฎเกณฑ์ตายตัวได้ในการสั่งให้เครื่องทำงาน แต่การสั่งให้มนุษย์ทำ
งานด้วยกฎเกณฑ์ที่ตายตัวอาจได้ผลมากบ้างน้อยบ้าง หรือไม่ได้ผลเอาเสียเลยก็เป็นได้ ดังนั้นผู้บริหารจึงต้องใช้ศาสตร์ คือความรู้ในเรื่องระเบียบ ทฤษฎีต่าง ๆ และศิลปในการบริหารทฤษฎีจะเป็นเครื่องมือและเครื่องช่วยนำทางสำหรับผู้บริหาร ถ้าไม่มีทฤษฎีการบริหารงานจะประสบความสำเร็จก็ด้วยเหตุบังเอิญเท่านัน ส่วนศิลปะนั้นจะช่วยให้ผู้บริหารสามารถนำเอาทฤษฎีไปสู่การปฏิบัติได้ ภาวะผู้นำหมายถึงอะไร ภาวะผู้นำมีอยู่หลายความหมาย อาจจะเนื่องมาจากปัจจัยหลายประการด้วยกัน ประการแรก ภาวะผู้นำมีขอบเขตกว้างขวางและเกี่ยวกับตัวแปรต่าง ๆ มากมาย ประการที่สอง ภาวะผู้นำเป็นผลงานของสหวิทยากร สหสถาบันและ สหอาชีพ ฉะนั้นวิธีการมองภาวะผู้นำของแต่ละวิชา สถาบันและอาชีพจึงแตกต่างกันออกไป ประการสุดท้าย องค์ความรู้เกี่ยวกับภาวะผู้นำยังถือเป็นข้อยุติไม่ได้ เรื่องจากผลการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังขัดแงกันอยู่มาก แต่อย่างไรก็ตาม จะได้นำเสนอทัศนะของนักวิชาการบางท่านเท่านั้น
ตามความเห็นของพีดเลอร์นั้น ภาวะผู้นำหมายถึงความสัมพันธ์ส่วนบุคคลซึ่งมีบุคคลหนึ่งคอยอำนวยการ
ประสานงานและดูแลควบคุมคนอื่น ๆ ในการปฏิบัติงานร่วมกัน ต่อมาในปี ค.ศ. 1971 พีดเลอร์ได้ให้ความหมายที่เฉพาะเจาะจงซึ่งมองเห็นได้ในทางปฏิบัติไว้ว่า “การที่ผู้นำมีอำนาจเหนือบุคคลอื่น ๆ อำนาจเหนือบุคคลอื่น ๆ นี้จะช่วยให้ผู้นำสามารถปฏิบัติงานซึ่งเขาไม่สามารถปฏิบัติคนเดียวได้เป็นผลสำเร็จ อย่างไรก็ดี อำนาจเหนือบุคคลอื่น ๆ ของผู้นำนี้ รวมไปถึงการหามาตรการที่จะให้ผู้ตามได้ยอมรับหรืออย่างน้อยที่สุดก็เต็มใจที่จะปฏิบัติตามความประสงค์ของผู้นำอยู่ด้วย ชมิดต์ ได้ให้ความหมายของภาวะ ผู้นำไว้อย่างกว้าง ๆ ว่า หมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนคนหนึ่ง (ผู้นำ) กับกลุ่ม (ผู้ตาม) และความสัมพันธ์ดังกล่าวนี้เกิดจาก การที่ผู้นำและกลุ่มผู้ตามมีผลประโยชน์ร่วมกันและประพฤติตนเอย่างภายใต้การอำนวยการหรือการกำหนดแนวทางผู้นำ จะเห็นได้ว่าความหมายของภาวะผู้นำของชมิดต์ มีลักษณะคล้ายคลึงกันที่ให้ไว้โดยพีดเลอร์ จากการพิจารณาดูความหมายของภาวะผู้นำที่นักวิชาการทั้งหลายที่ให้ไว้ข้างต้นนั้น ผู้เขียนขอสรุปว่า ภาวะผู้นำหมายถึงการที่บุคคลคนหนึ่ง (ผู้นำ) พยายามที่จะใช้กำลังสมอง กำลังกายและกำลังใจเพื่อจูงใจหรือดลใจเช่นนั้น จะต้องไม่เป็นการบังคับตลอดจนต้องได้รับความยินยอมจากผู้ตามด้วย สิ่งที่จะพิจารณาความเป็นผู้นำ
1. ผู้นำมีผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ใช่ผู้บริหารทั้งหมดที่เป็นผู้นำ ผู้บริหารมีผู้ใต้บังคับบัญชาที่ต้องให้การนิเทศ
แต่ถ้าบุคคลเหล่านี้ไม่เต็มใจยอมรับหรือปฏิบัติตามการนิเทศแสดงว่า ผู้บริหารมิได้เป็นผู้นำ ผู้ใต้บังคับบัญชา อาจปฏิบัติตามเพราะเกิดความกลัวก็ได้ แต่มิใช่การปฏิบัติตามเพื่อสนองตอบภาวะผู้นำในลักษณะที่เหมือนกันนั้น ไม่ใช่ผู้นำทุกคนที่เป็นผู้บริหาร ผู้นำอาจไม่ใช่ผู้บริหารก็ได้ ตัวอย่างเช่น ผู้นำที่ไม่เป็นทางการในกลุ่มการทำงาน เป็นผู้นำมีภาวะผู้นำแต่ไม่ได้เป็นผู้บริหาร
2. ผู้นำต้องเป็นผู้ตัดสินใจ Zaleznik ได้ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของความคาดหวังของพฤติกรรมของผู้
บริหารกับผู้นำ ผู้บริหารถูกคาดหวังให้เป็นผู้ตัดสินใจและผู้แก้ปัญหา บรรดาผู้บริหารทั้งหลายใช้ความคิดในการวิเคราะห์ในขบวนการที่จะนำให้เป้าหมายขององค์การประสบผลสำเร็จ ผู้นำถูกค่าหวังว่าต้องเป็นบุคคลที่น่านับถือ มีทรรศนะกว้างไกล จะทำให้ผู้ ร่วมงานมีความหวังและมีความคาดหวังสูง
3. ผู้นำต้องรู้ใจลูกน้อย ทั้งผู้บริหารและผู้นำต้องรู้ความต้องการขององค์การและความต้องการของสมาชิก
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารต้องปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายขององค์การในขณะที่ผู้นำต้องรู้ความต้องการของสมาชิก ผู้บริหารไม่สามารถจะเป็นผู้บริหารที่ดีได้ ถ้าไม่ทราบเป้าหมายขององค์การ ผู้นำก็ไม่สามารถเป็นผู้นำที่ดีได้ถ้าไม่ทราบความต้องการและ ความพึงพอใจของสมาชิกของตนเองได้ แบบจำลองขบวนการภาวะผู้นำ
ภาวะผู้นำเป็นภาวะการทางสังคมที่สลับซับซ้อน ซึ่งมีผลกระทบต่อบุคคลและปัจจัยต่าง ๆ ในองค์การรวมถึงสิ่งต่อไปนี้
1. คุณลักษณะต่าง ๆ ส่วนบุคคลของผู้นำ
2. พฤติกรรมของผู้นำ
3. ปัจจัยสถานะการณ์ต่าง ๆ เช่น ผู้ใต้บังคับบัญชา งานและการปฏิบัติงานในองค์การ
แบบจำลองขบวนการภาวะผู้นำในภาพนี้ชี้ให้เห็นปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้ภาวะผู้นำมีประสิทธิภาพ ซึ่งได
้อธิบายว่าขบวนการต่าง ๆ ซึ่งมีคุณลักษณะต่าง ๆ ส่วนตัวของผู้นำและปัจจัยต่าง ๆ ในสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีผลกระทบต่อการเลือกพฤติกรรมผู้นำ อิทธิผลต่าง ๆ ของกลุ่มสมาชิกในการปฏิบัติงานที่ทำให้ผู้นำมีประสิทธิภาพ แบบจำลองประกอบด้วยสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
แบบจำลองของภาวะผู้นำแปรเปลี่ยนไปตามปัจจัยต่อไปนี้
1. คุณลักษณะส่วนบุคคล (Personal trait) ผู้บริหารมีคุณลักษณะเฉพาะ ทัศนคติแรงจูงใจและบุคลิก
ภาพ คุณลักษณะเหล่านี้มีอิทธิผลต่อพฤติกรรม ต่อผู้นำ ตัวอย่าง ผู้บริหารผู้ที่เชื่อมั่นบุคคลอื่นย่อมปรึกษาหารือกับผู้ใต้บังคับ บัญชามากกว่าผู้บริหารที่ไม่เชื่อมั่นผู้ใต้บังคับบัญชา
2. พฤติกรรมผู้นำ (Leader Behavior) ผู้บริหารจะแสดงรูปแบบพฤติกรรมในการบริหารบุคคล
พฤติกรรมผู้นำเหล่านี้เป็นปฏิกริยาจากคุณลักษณะส่วนบุคคลของเขา และความต้องการของสถานการณ์ พฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ก็คือ
2.1 การสั่งการ
2.2 การสนับสนุน
2.3 การมีส่วนร่วม
2.4 พฤติกรรมมุ่งผลสัมฤทธิ์
3. ปัจจัยสถานการณ์ (Situation Factors) ผู้บริหารไม่ได้ทำงานอยู่ในสุญญากาศ สิ่งแวดล้อมมีอิทธิผล
ต่อพฤติกรรมของเขา ปัจจัยสถานการณ์ ปัจจัยต่าง ๆ ที่สำคัญของสถานการณ์
3.1 กลุ่มงาน
3.2 สมาชิกของกลุ่ม
3.3 การปฏิบัติงานในองค์การ เป็นอำนาจที่เป็นทางการที่เป็นที่ยอมรับ
4. ความกลมกลืนของภาวะผู้นำ (Leadership match) เมื่อผู้บริหารได้ทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ
เหมือนผู้นำ ผู้บริหารจำเป็นต้องใช้พฤติกรรมผู้นำ ซึ่งเหมาะสมกับคุณลักษณะประจำตัวของเขาและความต้องการตามสถานการณ์ ถ้าไม่กลมกลืนกันก็ย่อมไม่มีประสิทธิภาพ ภาวะผู้นำจะกลมกลืนกันจะต้องคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ
4.1 เลือกสถานการณ์ของภาวะผู้นำซึ่งเหมาะสมกับคุณลักษณะส่วนตัวของผู้บริหารและพฤติกรรมของผู้นำ
4.2 ปรับปัจจัยต่าง ๆ ของสถานการณ์ให้เหมาะสมกับผู้บริหาร คุณลักษณะประจำตัวและพฤติกรรมของผู้บริหาร
4.3 เพิ่มแบบภาวะผู้นำให้มากให้กลมกลืนกับสถานการณ์ที่แปรเปลี่ยนไป
5. ประสิทธิผลของภาวะผู้นำ ประสิทธิผลของภาวะผู้นำอาจวัดได้โดยดูระดับซึ่งผู้บริหารบรรลุถึงเป้าประสงค์ขององค์การและผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับการสนองตอบความต้องการ
รูปแบบจำลองนี้เป็นมโนทัศน์ของขบวนการผู้นำในองค์การและเป็นการพิจารณาถึงประสิทธิผลของภาวะผู้นำหลายทฤษฎี ภาวะผู้นำได้มีตัวแปรเปลี่ยนไป ตัวอย่างเช่น ทฤษฎีคุณลักษณะของผู้นำสัมพันธ์กับคุณลักษณะของบุคคลที่เป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพทฤษฎีสถานการณ์ศึกษาคุณลักษณะของบุคคล พฤติกรรมของผู้นำและปัจจัยสถานการณ์
|
ภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู
ผู้ติดตาม
วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556
บทความการศึกษา เรื่องภาวะผู้นำในการบริหารการศึกษา
วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556
วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556
วิเคาระห์จากการดูภาพยนต์
จากการที่กระผมได้ชมภาพยนต์เรื่องนี้ ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรอีกมากมายที่ยังไม่เคยรู้มาก่อนเลยครับ ซึ่งเรื่องต่างๆเหล่านั้นสามารถนำมาปรับใช้และปรับให้เข้ากับการดำเนินชีวิตประจำวันของเราในด้านต่างๆได้มากมาย ตัวอย่างเช่น''
1.ได้รู้ถึงคำว่าสามัคคีว่าความสามัคคีนั้นเกิดขึ้นได้ถ้าทุกๆคนช่วยกัน เพราะต้องเกิดจากความร่วมมือของบุคคลหลายฝ่าย บุคคลเพียงคนเดียวไม่สามารถทำให้เกิดคำๆนี้ได้ ทำให้เกิดสิ่งดีๆตามมามากมาย ทำให้เกิดแรงบรรดาลใจที่จะทำเรื่องอื่นๆต่อไปในชีวิต การที่จะทำอะไรก็จะประสบผลสำเร็จ บรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้ เป็นต้น
2.ได้เรียนรู้ถึงทักษะหรือเทคนิคการสอนของคุณครูว่ามีวิธีการสอนอย่างไรให้นักเรียนจากที่ไม่สนใจ กลับมาสนใจในการเรียน ซึ่งในฐานะที่กระผมเรียนครูด้วยผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะสามารถที่จะนำไปใช้ในสถานการณ์จริงเวลาไปสอนนักเรียนต่อไป
3.ได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ว่าในแต่ละเรื่องควรมีเคล็ดลับในการการปฎิบัติว่าเรื่องนั้นควรที่จะทำอะไรต่อไป เรื่องนั้นมีปัญหาที่มีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน ก็ว่ากันไปตามความรุนแรง''
4.การเรียนรู้ว่าวิธีการสร้างบรรยากาศการเรียนที่ีนั้ควรทำแบบใด ควรที่จะให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น ในการเรียนการสอนในแต่ละวิชา ความคิดของทุกคนไม่มีคำว่าผิด เพียงแค่พูดออกมา การเรียนการสอนไม่ควรตึงเครียดมากเกินไป เพราะจะทำให้เด็กไม่สนใจในการเรียน อาจจะทำให้เกิดปํญหาต่างๆตามมามากมาย''
5.การเรียนรุ้วิธีการดำเนินงานอย่างไรให้ประสบผลสำเร็จและสามารถที่จะประสานงานให้เข้ากับคนอื่นๆได้โดยเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีต่อไป''
ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ถ้วนแต่เป็นประโยชน์ในด้านที่ดี ซึงสิ่งที่ก่อให้เกิดผลดีควรที่จะนำไปปฎิบัติอย่างยิ่ง ซึ่งจะทำให้เกิดการเรียนรู้ย่อยๆอื่นๆตามมาอีกมากมายในอนาคตต่อไป''
2.ได้เรียนรู้ถึงทักษะหรือเทคนิคการสอนของคุณครูว่ามีวิธีการสอนอย่างไรให้นักเรียนจากที่ไม่สนใจ กลับมาสนใจในการเรียน ซึ่งในฐานะที่กระผมเรียนครูด้วยผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะสามารถที่จะนำไปใช้ในสถานการณ์จริงเวลาไปสอนนักเรียนต่อไป
3.ได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ว่าในแต่ละเรื่องควรมีเคล็ดลับในการการปฎิบัติว่าเรื่องนั้นควรที่จะทำอะไรต่อไป เรื่องนั้นมีปัญหาที่มีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน ก็ว่ากันไปตามความรุนแรง''
4.การเรียนรู้ว่าวิธีการสร้างบรรยากาศการเรียนที่ีนั้ควรทำแบบใด ควรที่จะให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น ในการเรียนการสอนในแต่ละวิชา ความคิดของทุกคนไม่มีคำว่าผิด เพียงแค่พูดออกมา การเรียนการสอนไม่ควรตึงเครียดมากเกินไป เพราะจะทำให้เด็กไม่สนใจในการเรียน อาจจะทำให้เกิดปํญหาต่างๆตามมามากมาย''
5.การเรียนรุ้วิธีการดำเนินงานอย่างไรให้ประสบผลสำเร็จและสามารถที่จะประสานงานให้เข้ากับคนอื่นๆได้โดยเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีต่อไป''
ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ถ้วนแต่เป็นประโยชน์ในด้านที่ดี ซึงสิ่งที่ก่อให้เกิดผลดีควรที่จะนำไปปฎิบัติอย่างยิ่ง ซึ่งจะทำให้เกิดการเรียนรู้ย่อยๆอื่นๆตามมาอีกมากมายในอนาคตต่อไป''
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา ชื่อนายพีรพงศ์ ริยาพันธ์ เลขที่ 20 ห้อง 4/3
จังหวัดพะเยา
คำขวัญ
ประจำจังหวัด
กว๊านพะเยาแหล่งชีวิต ศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าตนหลวง บวงสรวงพ่อขุนงำเมือง
งามลือเลื่องดอยบุษราคัม
พะเยามีเนื้อที่ประมาณ 6,335 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ 2
กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา อำเภอจุน อำเภอเชียงคำ อำเภอเชียงม่วน
อำเภอดอกคำใต้ อำเภอปง และอำเภอแม่ใจ กิ่งอำเภอภูซาง กิ่งอำเภอกามยาว
พะเยามีเนื้อที่ประมาณ 6,335 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ 2
กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา อำเภอจุน อำเภอเชียงคำ อำเภอเชียงม่วน
อำเภอดอกคำใต้ อำเภอปง และอำเภอแม่ใจ กิ่งอำเภอภูซาง กิ่งอำเภอกามยาว
ประวัติเมืองพะเยา
พะเยาเป็นเมืองประวัติศาสตร์เดิมมีชื่อว่า"เมืองภูกามยาวหรือพยาว"เคยมีเอกราชสมบูรณ์มีกษัตริย์ปกครองสืบราชสันตติวงศ์มาปรากฎตามตำนานเมืองพะเยา
ดังนี้พุทธศักราช ๑๖๐๒ (จุลศักราช๔๒๑) พ่อขุนเงินหรือลาวเงินกษัตริย์ผู้ครองนครเงินยางเชียงแสนได้ให้ขุนจอมธรรมโอรสองค์ท ให้ปกครองเมืองภูกามยาว
ซึ่งเป็นหัวเมืองฝ่ายใต้ขุนจอมธรรมครองเมืองภูกามยาวได้๒๔
ปี ก็สิ้นพระชนม์ขุนเจื่องโอรสได้ขึ้นครองราชย์แทนใน
ขณะครองเมืองได้รวบรวมลี้พลไปช่วยเมืองนครเงินยาง
ของขุนชินผู้เป็นลุงจนรอดพ้นจากการรุกรานของแกวหรือญวนได้สำเร็จ
ขุนชินทรงโสมนัสยิ่งนักจึงยกธิดาชื่อ พระนางอั๊วคำ สอนให้และสละราชสมบัติ
ปีพุทธศักราช ๒๔๕๗ ได้ยุบเลิกตำแหน่งเจ้าผู้ครองเมืองแล้วใช้ตำแหน่งเจ้าผู้ครองเมือง
แล้วใช้ตำแหน่งนายอำเภอแทนพะเยาจึงมีฐานะเป็นอำเภอพะเยาต่อมาเมื่อวันที่๒๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ พะเยาจึงได้รับการยกฐานะจากอำเภอพะเยา
ขึ้นเป็นจังหวัดพะเยา
2. สมัยกรุงศรีอยุธยา | ||||
สมัยพระเจ้าติโลกราชครองอาณาจักรลานนาไทย (พุทธศักราช 1985-2025)
แผ่อำนาจลงไปทางใต้ปราบปรามเมืองสองแคว เมืองเชลียง
เมืองสุโขทัยตลอดถึงเมืองกำแพงเพชร อยู่ในอำนาจต่อมาในปีพุทธศักราช 1994 - 2030
พระยายุทิศเจียงเจ้าเมืองสองแควซึ่งสวามิภักดิ์พระเจ้าติโลกราชได้มาครองเมืองพะเยา
ทรงสร้างพระเจดีย์วัดพระยาร่วง (วัดบุญนาค)
ซึ่งปัจจุบันประดิษฐานอยู่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเรียกว่า “หลวงพ่อนาค”
ทรงก่อสร้างวิหารวัดป่าแดง หลวงพ่อดอนชัย
และอัญเชิญพระพุทธปฏิมาแก่นจันทร์แดงจากวัดปทุมมาราม (หนองบัว)
มาประดิษฐานไว้ด้วย ต่อมาพระเจ้าติโลกราชสั่งให้นำไปประดิษฐานไว้ ณ วัดอโศการาม (วัดป่าแดงหลวง) เชียงใหม่
นอกนั้นพระยายุทิศเจียงยังเอาช่างปั้นถ้วยชาม เครื่องสังคโลก อันเป็นศิลปของกรุงสุโขทัย
ไปเผยแพร่การปั้นถ้วยชามสังคโลกด้วย
ตั้งแต่นั้นมาเมืองภูกามยาวก็รวมอยู่กับอาณาจักรลานนาไทยมาโดยตลอด
จากหลักฐานศิลาจารึกต่างๆ
ปรากฏว่าเมื่อปีพุทธศักราช 2034 พระยาเมืองยี่ครองเมืองพะยา
พระยอดเชียงรายครองเมืองเชียงใหม่
กับตายายสองผัวเมียสร้างพระเจ้าตนหลวงเริ่มสร้างได้ 5 วัน
พระยาเมืองยี่ถึงแก่พิราลัยต่อมาพระยอดเชียงรายก็สิ้นพระชนม์ในปีเดียวกัน
3. สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
พุทธศักราช 2330
เจ้าเมืองอังวะสั่งให้หวุ่นยีมหาไชยสุระยกทัพมาทางหัวเมืองฝ่ายเหนือ
ผ่านฝาง เชียงราย เชียงแสน และพะเยาด้วย
ผู้คนกลัวแตกตื่นอพยพไปอยู่ลำปางทำให้เมืองพะเยาร้างไปเป็นเวลาถึง 56
ปี
พุทธศักราช
2386
พระยานครลำปางน้อยอินทร์กับพระยาอุปราชมหาวงศ์เมืองเชียงใหม่ลงไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทูลขอตั้งเมืองเชียงรายเป็นเมืองขึ้นของเชียงใหม่ และตั้งเมืองงาว
เมืองพะเยาเป็นเมืองขึ้นของนครลำปาง ต่อมาพระองค์ทรงโปรกเกล้าฯ
แต่งตั้งให้นายพุทธวงศ์ น้องคนที่ 1 ของพระยานครอินทร์เป็นพระยาประเทศอุดรทิศ
ผู้ครองเมืองพะเยา ตั้งนายน้อย มหายศ และตั้งนายแก้ว มานุตตม์
น้องคนที่ 2 และ 3 เป็นพระยาอุปราชเมืองพะเยา และพระยาราชวงศ์เมืองพะเยาตามลำดับ
ตั้งนายขัติยะ
บุตรพระยาประเทศอุดรทิศเป็นพระยาเมืองแก้ว และตั้งนายน้อย ขัติยะ
บุตรราชวงศ์หมู่ส่าเป็นพระยาราชบุตรเมืองพะเยา
ผู้ครองเมืองพะเยาทุกคนจึงได้รับพระราชทานนามว่า “พระยาประเทศอุดรทิศ”
แต่ประชาชนมักจะเรียกตามนามเดิม เช่นเจ้าหลวงวงศ์
-พุทธศักราช 2391 พระยาอุปราช
(น้อย มหายศ) รับสัญญาบัตรขึ้นครองเมืองพะเยา จนถึงจุลศักราช 1217 ( -พุทธศักราช 2398) ก็ถึงอนิจกรรม
-พุทธศักราช 2398 พระยาราชวงศ์เมืองพะเยา
(เจ้าบุรีรัตนะหรือเจ้าแก้ว ขัติยะ)
ได้รับสัญญาบัตรเป็นเจ้าเมืองพะเยา ครองเมืองได้ 6 ปี
ก็ถึงอนิจกรรม
- พุทธศักราช 2403 เจ้าหอหน้าอินทะชมภู
รับสัญญาบัตรเป็นผู้ครองเมืองพะเยาได้ 11 ปี ก็ถึงแก่พิราลัยเมื่อปีพุทธศักราช
2413
-พุทธศักราช 2418 เจ้าหลวงอริยะเป็นเจ้าเมืองพะเยาถึงปีพุทธศักราช 2437
ถึงแก่อนิจกรรม เจ้าไชยวงศ์เป็นผู้ครองเมืองพะเยาต่อมาถึง 9
ปี
-พุทธศักราช 2445 เกิดจราจลขึ้นทางหัวเมืองฝ่ายเหนือ
โจรผู้ลี้ภัยเงี้ยวเข้ายึดเมืองพะเยา ปล้นเอาทรัพย์สินทางราชการ ประชาชนวัดวาอาราม
ข้อมูลการเดินทาง
รถยนต์
สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง เส้นทางที่ 1 ใช้ทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเซีย)
ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี นครสวรรค์ เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1
ที่นครสวรรค์ ผ่านอำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร ตาก
ผ่านอำเภอเถิน อำเภอสบปราบ อำเภองาว จังหวัดลำปาง
เข้าสู่ตัวเมืองพะเยา ระยะทาง 969 กิโลเมตร เส้นทางที่ 2 ใข้ทางหลวงหมายเลข
32 (สายเอเซีย) ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
อ่างทอง สิงห์บุรี นครสวรรค์ เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 117 จนถึงพิษณุโลก
แยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 12 ไปจนถึงสุโขทัย เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 101
ผ่านอำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 103 ผ่านอำเภอร้องกวาง
เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านอำเภองาว เข้าสู่ตัวเมืองพะเยา ระยะทาง 782
กิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา
|
ประวัติการศึกษา ประวัติความชำนาญในการใช้คอมพิวเตอร์ ชื่อนายพีรพงศ์ ริยาพันธ์ เลขที่ 20 ห้อง 4/4
ประวัติส่วนตัว
ชื่อนายพีรพงศ์ ริยาพันธ์
ชื่อเล่นหนึ่ง
เกิดวันพฤหัสบดี ที่16 พฤษภาคม
พ.ศ.2534 ปัจจุบันอายุ22ปี
ที่อยู่61/1 ม.2 ต.สินเจริญ
อ.พระแสง
จ.สุราษฎร์ธานี
84210
บิดาชื่อ นายพิพัฒน์ ริยาพันธ์ อายุ42ปี
อาชีพทำสวน
มารดาชื่อ นางสุพิศ ริยาพันธ์
อายุ42ปี อาชีพทำสวน
จำนวนพี่น้องมี2คน
ตนเองเป็นลูกคนโต
อาหารโปรด
คั่วซี่โครงหมู
นักร้องไทยที่ชอบ วงBODYSLAM,BIG ASS
นักร้องต่างประเทศที่ชอบ วงGOOD CHARLOTTE
ประวัติการศึกษา
เรียนอนุบาล 1 ถึง
มัธยมศึกษาปีที่3 ที่โรงเรียนบ้านบางรูป อ.พระแสง
จ.สุราษฎร์ธานี
เรียนมัธยมศึกษาปี่ที่4 ถึง มัธยมศึกษาปี่ที่6 จากโรงเรียนพระแสงวิทยา จ.สุราษฎร์ธานี
เรียนระดับอุดมศึกษา เอกพลศึกษาจาก
สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตกระบี่ ถึงปัจจุบัน
ประวัติความชำนาญในการใช้คอมพิวเตอร์
รู้จักกับคอมพิวเตอร์ตอนประถมศึกษาปีที่6
จากการได้ไปอบรม
ที่โรงเรียนอื่นโดยความชำนาญในการเล่นหรือทำงานในปัจจุบันถือว่ายังไม่มีความชำนาญเท่าที่ควร
วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)